2549 : บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ในชื่อ ร้าน ไทย ไอที แมนทิแนนซ์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 100,000 บาท ต่อมา ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากร้านค้าเป็นบริษัท และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แหลมฉบัง ไอที โซลูชั่น จำกัด
2551 : บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทฯ เป็น บริษัท แหลมฉบัง ไอที โซลูชั่น จำกัด ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ของกลุ่มบริษัท แหลมฉบัง ไอที โซลูชั่น จำกัด ประกอบกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหารของบริษัทฯ ในธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 1,000,000 บาท ในปี 2551
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ โดยบริษัทฯ เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกมากกว่า 50 ตราสินค้า และมีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ทั้งที่เป็นสำนักงาน หอพัก ส่วนราชการและลูกค้าทั่วไป ฯลฯ
จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอแบบครบวงจรและความน่าเชื่อถือของ บริษัทฯ ทำให้ทั้งพันธมิตรทางธุรกิจและกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ มั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าจากบริษัทฯ เนื่องจากความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าและการบริการหลังการขายที่สะดวกรวด เร็ว ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้แบ่งผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายออกเป็น 8 กลุ่ม โดยมีรายละเอียดของแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์ชิ้นส่วน (Component Product Group: CPG)
สินค้า ในกลุ่มนี้เป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น Hard Disk Drive, CPU, Motherboard, DRAM, CD-ROM และ DVD-RW เป็นต้น โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Seagate และ Western Digital ซึ่ง Seagate นั้นเป็นผู้นำของตลาด Hard Disk Drive สำหรับสินค้าประเภท CPU นั้น บริษัทฯ ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Intel ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเช่นกัน นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังจำหน่าย DRAM ของ Kingston และ DVD-RW ของ LG และ Asustek อีกด้วย
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง (Consumables & Supply Group: CSG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ต้องมีการจัดซื้อทดแทนตลอดเวลาซึ่ง ประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น หมึกพิมพ์ (Ink Cartridge) โทนเนอร์ (Toner) และแผ่นดิสค์ เป็นต้น โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Fullmark, Canon, Epson, HP, Fuji Xerox, Samsung และ Brother ซึ่งล้วนแต่เป็นตราสินค้าที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เพื่อการพิมพ์ (Image & Printing Product Group: IPG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นอุปกรณ์เพื่อการพิมพ์ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น เครื่องพิมพ์แบบ Inkjet (Inkjet Printer), เครื่องพิมพ์แบบ Laser (Laser Printer) เครื่องพิมพ์แบบ All-In-One (Printer All-In-One) และกล้องดิจิตอล โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ HP, Canon, Epson, Brother, Samsung และ Fuji Xerox
4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเน็ทเวิร์ก (Network Product Group: NPG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเน็ทเวิร์กซึ่งประกอบไปด้วย สินค้าหลัก เช่น Switch, UPS, Server, Network Cabling System, Wireless LAN, Hub และ Router เป็นต้น โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ 3COM, Compex, Planet, APC, AMP, ZyXEL และ Cisco ซึ่งเป็นผู้นำของตลาดเน็ทเวิร์ก
5. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Display Product Group: DPG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นอุปกรณ์แสดงผลข้อมูลซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น จอภาพ และเครื่องฉายภาพสไลด์ เป็นต้น โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Samsung, Phillips, Viewsonic, Benq, EIZO และ Lemel ซึ่ง Samsung นั้นเป็นผู้นำของตลาดจอภาพ นอกจากนั้น บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จอภาพของ Viewsonic และ EIZO แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
6. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ (System Product Group: SPG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นสินค้าประเภทชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Asustek และ BenQ และคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ (CTO: Configuration-to-Order) โดยบริษัทฯ มีสินค้าภายใต้ตราสินค้า Lemel ซึ่งเป็นตราสินค้าของกลุ่มซินเน็ค ประเทศไต้หวัน
7. กลุ่มผลิตภัณฑ์ MCE (Multimedia Consumer Electronic Product Group: MCE)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้สื่อหลายชนิดใน คอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น USB Flash Drive, Flash Card, MP3, เครื่องฉายภาพ (Projector), อุปกรณ์ GPS, และโทรศัพท์ GPS + PDA เป็นต้น โดยบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือแบบ GPS + PDA ของ Mio แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Kingston, Sandisk, Pretec, Lemel, Imation และ Adata ซึ่ง Kingston นั้นเป็นผู้นำของตลาด USB Flash Drive
8. กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ (Software Product Group: SWG)
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นสินค้าประเภทซอฟท์แวร์ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น ซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่น ซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องแม่ข่าย และซอฟท์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Microsoft, Autodesk, Trend Micro และ CA ซึ่ง Microsoft นั้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดซอฟท์แวร์
บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของการบริการหลังการขาย เนื่องจากบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่มองธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นธุรกิจการบริการ ครบวงจร (one-stop service) มิใช่เพียงธุรกิจซื้อมาขายไป เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีกำไรขั้นต้นอยู่ใน เกณฑ์ต่ำจากการแข่งขันที่รุนแรงและสินค้าที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้เปรียบคู่แข่งในด้านการบริการลูกค้าหลังการขาย และการซ่อมแซมบำรุงที่ครบวงจร
บริษัทฯ จัดให้มีการบริการหลังการขายสำหรับสินค้าทุกประเภทของบริษัทฯ ตามเงื่อนไขการรับประกันของผู้ผลิต โดยลูกค้าสามารถนำสินค้าที่มีปัญหามารับบริการซ่อมเปลี่ยนได้จากบริษัทฯ ทั้งนี้ ลักษณะของการบริการหลังการขายขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้า ลักษณะของปัญหา และเงื่อนไขระหว่างบริษัทฯ กับผู้ผลิต การบริการหลังการขายสำหรับสินค้าที่อยู่ในระยะเวลารับประกัน บริษัทฯ จะดำเนินการเรียกเก็บค่าบริการในการซ่อมเปลี่ยนสินค้าจากผู้ผลิต ในขณะที่การบริการหลังการขายสำหรับสินค้าที่พ้นระยะเวลารับประกันจากผู้ผลิต แล้วนั้น บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าบริการซ่อมแซมสินค้าดังกล่าวโดยตรงจากลูกค้า ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีระบบการซ่อมเปลี่ยนสินค้าโดยรับสินค้าที่นำมาเปลี่ยนและสามารถส่งคืน สินค้าให้ได้ภายใน 3-7 วันทำการ
อนึ่ง การบริการหลังการขายของบริษัทฯ ดำเนินงานโดยฝ่ายซ่อมเปลี่ยนและบริการลูกค้า โดยฝ่ายซ่อมเปลี่ยนและบริการลูกค้ามีการส่งพนักงานไปอบรมกับผู้ผลิตต่างๆ เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความชำนาญในการซ่อมแซมสินค้าของบริษัทฯ โดยในปัจจุบัน ฝ่ายซ่อมเปลี่ยนและบริการลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับการฝึกอบรมในการซ่อมแซมสินค้าซึ่งต้องใช้ทักษะชั้นสูงได้หลากหลาย ประเภท